เมือง
เชียงใหม่ มีชื่อที่ปรากฏในตำนานว่า "นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่"
เป็นราชธานีของอาณาจักรล้านนาไทยมาตั้งแต่ พระยามังรายได้ทรงสร้างขึ้น
เมื่อ พ.ศ.1839 โดยความร่วมมือของ 3 กษัตริย์เชื้อไท ได้แก่ พญามังราย
พ่อขุนรามคำแหง (อาณาจักรสุโขทัย) และพ่อขุนงำเมือง (เมืองพะเยา)
และในเอกสารล้านนาระบุว่า 3 กษัตริย์
เป็นพระสหายร่วมน้ำสาบานและอีกประการหนึ่งเนื่องจากต้องการพันธมิตร
เพื่อต่อต้านการรุกรานของมองโกล โดยได้ตีอาณาจักรพุกามในพม่าปัจจุบันแตก
ซึ่งในขณะนั้นถือเป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่มาก
ทำให้เกิดการร่วมมือกันของกษัตริย์ไททั้ง 3 พระองค์
ซึ่งปัจจุบัน ปี พ.ศ.2555 มี อายุครบ 715 ปี และเมืองเชียงใหม่ได้มีวิวัฒนาการสืบเนื่องกันมาในประวัติศาสตร์ตลอดมาเชียงใหม่
ในอดีตมีฐานะเป็นนครหลวงอิสระ ปกครองโดยกษัตริย์ราชวงศ์มังราย ประมาณ 261
ปี (ระหว่าง พ.ศ. 1839-พ.ศ. 2101) แต่ต่อมาในปี พ.ศ. 2101
เชียงใหม่ได้เสียเมืองให้แก่พระเจ้าบุเรงนอง พระมหากษัตริย์พม่า
และได้ถูกปกครองโดยพม่ามานานกว่าสองร้อยปี จนถึงสมัยสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี พระเจ้าตากสินมหาราช
และพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
ได้ทรงช่วยเหลือล้านนาไทยจึงได้มีการทำสงครามเพื่อขับไล่พม่าออกจากเมือง
เชียงใหม่และเชียงแสนได้สำเร็จ
ภายใต้การนำของพระยากาวิละและพระยาจ่าบ้านในการทำสงครามขับไล่พม่าออกไปจาก
เชียงใหม่และเมืองเชียงแสนได้สำเร็จ
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาเจ้ากาวิละ ขึ้นเป็น
พระเจ้าบรมราชาธิบดีกาวิละ
โดยให้ปกครองหัวเมืองฝ่ายเหนือในฐานะประเทศราชของกรุงรัตนโกสินร์
และราชวงศ์ทิพย์จักราธิวงศ์ (ราชวงศ์เจ้าเจ็ดตน)
ซึ่งเป็นเชื้อสายของพระเจ้าบรมราชาธิบดีกาวิละ
ก็ได้ปกครองเมืองเชียงใหม่และหัวเมืองต่าง ๆ สืบต่อมา
และเปลี่ยนชื่อเมืองเป็น
"รัตนติงสาอภินวบุรีเชียงใหม่" ในรัชสมัยของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ได้มีการปฏิรูปการปกครองหัวเมืองประเทศราช
โดยมีการจัดตั้งการปกครองแบบมณฑลเทศาภิบาล เรียกว่า "มณฑลพายัพ"
หรือมณฑลลาวเฉียง
ต่อมาเชียงใหม่ได้มีการปรับปรุงการปกครองและยกฐานะขึ้นเป็น "จังหวัด"
ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2476 ในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
จนถึงปัจจุบัน